เทศกาลนิชิโอะ
เทศกาลนิชิโอะกิออน (Nishio Gion Festival)

เทศกาลนิชิโอะกิออน เป็นประเพณีที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 400 ปี และถูกจัดขึ้นทุกปีในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ในเทศกาลจะมีการอัญเชิญศาลเจ้าเคลื่อน “มิโคชิ” ที่จากศาลเจ้าอิบุน ซึ่งเป็นที่สถิตของเทพผู้พิทักษ์เมืองปราสาทนิชิโอะ ไปยังศาลเจ้าฮาจิมังกูซึ่งตั้งอยู่ในปราสาทนิชิโอะ ว่ากันว่าหากท่านได้ลอดใต้มิโคชิ ท่านจะได้รับพรให้มีสุขภาพที่ดี ช่วงเทศกาลจะมีการแสดงเต้นรํา พร้อมกับเดินขบวนพาเหรดของเหล่าไดเมียว (ขุนนางศักดินา) ขนาดใหญ่รวมถึงการแสดงเชิดสิงโตเต้นรํา ฯลฯ
เทศกาลโคมไฟขนาดใหญ่มิคาวะ อิชชิกิ (Mikawa Isshiki Lantern Festival)

โคมไฟยักษ์สว่างไสวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนในฤดูร้อน เทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่มีประวัติยาวนานต่อเนื่องกว่า 400 ปี และจะจัดขึ้นทุกปีในวันที่ 26 และ 27 เดือนสิงหาคม จะมีโคมไฟยักษ์ 6 คู่รวม 12 โคม ซึ่งแต่ละโคมมีความยาว 6-10 เมตร ว่ากันว่าโคมไฟเหล่านี้เป็นดั่งตัวแทนของกองไฟที่จะช่วยคุมให้เหล่าสัตว์ทะเลสงบลง
พิพิธภัณฑ์เทศกาลอิชชิกิ (Isshiki Festival Museum)

พิพิธภัณฑ์ที่ใช้จัดแสดงโคมไฟยักษ์จําลองที่ใช้ในเทศกาลโคมไฟขนาดใหญ่มิคาวะ อิชชิกิ นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับเทศกาลท้องถิ่น ณ ที่แห่งนี้ได้
เทศกาลไฟโทบะ (Toba Fire Festival)

เทศกาลนี้ได้รับการกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้ที่สำคัญของชาติญี่ปุ่น เทศกาลนี้จัดขึ้นในวันที่ 7 มกราคมตามปฏิทินจันทรคติ (วันอาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์) และว่ากันว่าเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 1,200 ปีที่แล้ว คบเพลิงขนาดใหญ่ 2 อันที่เรียกว่า ‘ซูซูมิ’ ซึ่งมีความสูง 5 เมตร และหนัก 2 ตัน จะถูกจุดโดยชายท้องถิ่นที่กำลังอยู่ในช่วงปีชง (ฝั่งตะวันออก และตะวันตก ฝั่งละคน) หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมเทศกาลที่นับเป็นผู้กล้าหาญ จะใส่ชุดที่ทำจากธงเก่า และปีนขึ้นไปบนซูซูมิที่กำลังลุกเป็นไฟ และเพื่อแข่งขันกันแย่งชิงเอาไม้ศักดิ์สิทธิ์ และเชือกสิบสองเส้นจากในซูซูมิ สุดท้าย ผู้ชายที่เข้าร่วมกิจกรรมจะนำไม้ศักดิ์สิทธิ์ และเชือก 12 เส้น ไปถวายแก่เทพเจ้าเพื่อให้เทพเจ้าประทานพรเกี่ยวกับผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ในนั้น
เทศกาลเทนเทโกะ (Tenteko Festival)

เทศกาลที่จัดขึ้นในวันที่ 3 มกราคมของทุกปีเพื่ออธิษฐานขอพรให้เก็บเกี่ยวพืชผลได้ดีตลอดทั้งปี ว่ากันว่าเทศกาลนี้เริ่มต้นขึ้นในสมัยเฮอัน ในช่วงเทศกาล ยาคุ โอโตโกะ (ชายปีชง) จะสวมชุดสีแดง และห้อยหัวไชเท้าไว้ที่เอวเพื่อแทนสัญลักษณ์ของความเป็นชาย หลังจากนั้นพวกเขาจะเดินไปรอบ ๆ เมือง และส่ายสะโพกไปตามเสียงกลอง