เมืองนิชิโอะคืออะไร
นิชิโอะเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าหลงใหลที่เต็มไปด้วย “อาหาร” “ธรรมชาติ” และ “ประวัติศาสตร์” นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในญี่ปุ่นในฐานะของอาณาจักรแห่งชาเขียวมัทฉะ “นิชิโอะมัทฉะ” ที่มีกลิ่นหอมหวาน และรสชาติเข้มข้นอันเป็นเอกลักษณ์ “ปลาไหลอิชชิกิ” ที่มีแฟนคลับทั่วทั้งประเทศเองก็มีปริมาณการผลิตที่สูงเป็นอันดับแรก ๆ ของญี่ปุ่น ซึ่งดึงดูดนักชิมอาหารจากทั่วประเทศให้มาเยือน นอกจากนี้ ทุกท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ทางธรรมชาติมากมาย เช่น “เกาะซากุชิมะ” ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะเกาะแห่งศิลปะที่ลอยอยู่บนอ่าวมิคาวะ (Mikawa) และยังมีสันดอนเชื่อมเกาะทอมโบโล ซึ่งเป็นหนึ่งในสันดอนที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นสถานที่ที่คนนิยมโพสต์ลงอินสตาแกรม ตัวเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยมูโรมาจิได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ลิตเติ้ลเกียวโตแห่งมิคาวะ” เป็นเมืองที่สามารถเดินเที่ยวพร้อมสัมผัสกับประสบการณ์หลากหลาย เช่น “การเที่ยวชมเมืองพร้อมตอบคำถาม” และ”การเดินเที่ยวพร้อมไขปริศนา” ขอเชิญทุกท่านมาเยี่ยมชม “นิชิโอะ จังหวัดไอจิ” ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาหาร ทะเล และประวัติศาสตร์
เมืองนิชิโอะตั้งอยู่ทางใต้สุดของลุ่มแม่น้ำยาฮากิ (Yahagi) ซึ่งไหลจากทิศเหนือไปยังทิศใต้ผ่านใจกลางจังหวัดไอจิ มีภูเขาต่าง ๆ รายล้อม เช่น ภูเขาซันกาเนะซัง (Sanganesan)ที่อยู่ทางทิศตะวันออก มีแม่น้ำยาฮากิ(Yahagi
)ทางทิศตะวันตก และอ่าวมิคาวะ (Mikawa) อยู่ทางทิศตะวันใต้ เมืองนิชิโอะมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รวมถึงมีงานประเพณี และศิลปะท้องถิ่นหลากหลายที่ได้รับการสืบทอดต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้เมืองนิชิโอะยังรวมถึงพื้นที่บนเกาะซากุชิมะ (Sakushima) ที่ลอยอยู่ในบริเวณภูเขาซันกาเนะซัง(Sanganesan) และอ่าวมิคาวะ (Mikawa) ด้วยสภาพแวดล้อมอันงดงามเลยได้รับการยกย่องให้เป็นอุทยานแห่งชาติอ่าวมิคาวะ (Mikawawankokutei Park) ส่วน”ปราสาทไซโจ” ที่ถูกสร้างโดยโยชิอุจิ อาชิคากะในสมัยคามาคุระ ก็ได้รับการอนุรักษ์ให้คงอยู่ไว้เป็นเมืองปราสาทในสมัยเอโดะ และได้รับการยกย่องในฐานะ “ลิตเติ้ลเกียวโตแห่งมิคาวะ” จากความเจริญรุ่งเรืองที่ยังคงเห็นได้ในยุคปัจจุบันอีกด้วย เมืองนิชิโอะยังเป็นศูนย์กลางการผลิตชาเขียว (Matcha) ที่มีปริมาณการผลิตที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางการผลิตพืชทางการเกษตร และผลิตผลทางการประมง อื่น ๆ เช่น ดอกคาร์เนชัน ฟาร์มปลาไหล และหอยเชลล์ (Asari) เป็นต้น เมืองนิชิโอะที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าตื่นตาตื่นใจ เช่น ทะเล หมู่เกาะ ย่านเมือง อาหาร และอื่น ๆ จะทำให้ทุกท่านรู้สึกอยากกลับมาเที่ยวซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างแน่นอน
นิชิโอะมัทฉะ (Nishio Matcha)
ชาเขียวแห่งเมืองนิชิโอะ “นิชิโอะมัทฉะ” นั้นเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตชาที่มีปริมาณการผลิตมากที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะของ “บ้านเกิดของมัทฉะ” ที่มีประวัติยาวนานกว่า 750 ปีอีกด้วย ประวัติศาสตร์ของชาเขียวเริ่มต้นในปี 1271 เมื่อเจ้าอาวาสของวัดจิสโซจิ นามว่าโชอิจิ โคคุชิ ได้ปลูกเมล็ดชา ภายในเขตวัด ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นของการปลูกชาในจังหวัดนี้ กล่าวกันว่าในสมัยนั้น ชาเขียวถูกบริโภคโดยพระสงฆ์และราชวงศ์เท่านั้น จนกระทั่งในสมัยเมจิที่เริ่มมีการผลิตมัทฉะอย่างจริงจังขึ้น ต่อมาเมื่อประมาณปี 1872 อาดาจิ จุนโด หัวหน้านักบวชแห่งวัดโคจูอิน ได้แนะนำเมล็ดชา และเทคนิคการชงชาจากเมืองอุจิ (Uji) หลังจากนั้นเกษตรกรในท้องถิ่นก็เริ่มปลูกชาตัวนี้ และใช้วิธีการปลูกที่เรียกว่า “ทานาชิกิ โออิชิอิตะ ไซไบ” เพื่อปลูกใบชาให้มีรสชาติหวาน และ 97 % ของชาเหล่านี้ถูกนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์มัทฉะ เกิดเป็นยุคที่มัทฉะเฟื่องฟู พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกชาคือพื้นที่ลุ่มน้ำยาซากะที่มีดินแดงซึ่งมีแร่ธาตุอัดแน่น และมีความชื้นเหมาะสม ศูนย์กลางของพื้นที่นี้คือ “สวนอินาริยามะ” (Inariyama) ซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นไร่ชาได้อย่างชัดเจนสวยงาม ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินกับขนมหวานที่ทำจากมัทฉะแสนอร่อยที่สามารถลิ้มลองได้ที่ร้านขนมซึ่งกระจายอยู่ทั่วเมืองนิชิโอะเท่านั้น ในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมของทุกปี จะมีการจัดกิจกรรม “เก็บชามัทฉะครั้งแรก และทัวร์โรงงานมัทฉะ” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากผู้คนมากมาย เมื่อร่วมกิจกรรมทุกท่านจะได้รับถุงชา 1 ถุงที่ท่านเป็นคนเก็บด้วยตัวเอง และยังได้รับ “คู่มือชงชาให้อร่อยสูตรนิชิโอะ” กลับบ้านเป็นของแถมอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ยังมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับมัทฉะให้ท่านได้เยี่ยมชมอีกมากมาย ดังนั้นมาลองสัมผัสประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับชาเขียวเรียกว่า “มัทฉะซันไม” ในนิชิโอะกันไหม
ปลาไหลที่ผลิตในอิชชิกิ (Isshikisan Unagi)
กลิ่นหอมของอาหารจะช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร จึงถือเป็นแหล่งพลังงานในช่วงฤดูร้อนอย่างดี อย่างที่ทราบกันว่าญี่ปุ่นมีธรรมเนียมการกินปลาไหลย่างคาบายากิ (Kabayaki) ในวันโดโยโนะอุชิโนะฮิ หรือวันแห่งวัวในช่วงกลางฤดูร้อน จึงกล่าวได้ว่าสำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว “ปลาไหล” เป็นวัตถุดิบที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่อดีตราว ๆ สมัยมันโย หากพูดถึงปลาไหล หลาย ๆ ท่านมักจะนึกถึงปลาไหลที่ผลิตแถวทะเลสาบฮามานะ (Hamana) ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าในแง่ของความโด่งดังนั้นยังไม่เท่า แต่ถึงอย่างไรก็ตามปริมาณการผลิตปลาไหลที่ผลิตในอิชชิกิก็มีประมาณถึง 1 ใน 4 ของทั้งประเทศ ทั้งยังได้รับการรับรองว่าเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานสิทธิบัตรของญี่ปุ่น (เครื่องหมายการค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น) เช่นเดียวกันกับนิชิโอะมัทฉะ (Nishio Matcha) ซึ่งครองอันดับต้น ๆ ของประเทศ จึงถือเป็นผลิตภัณฑ์สุดพรีเมี่ยมที่น่าภาคภูมิใจของเมืองนิชิโอะก็ว่าได้ จุดเด่นของปลาไหลที่ผลิตในอิชชิกิแห่งเมืองนิชิโอะอยู่ที่เนื้อและหนังที่นิ่ม อีกทั้งยังมีรสชาติที่กำลังพอดี โดยจะเลี้ยงตั้งแต่ตอนเป็นลูกปลาที่เรียกว่าชิราสุ (Shirasu) จนโตเต็มวัย สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเพาะเลี้ยงปลาไหลคือ “น้ำ” โดยจะเลี้ยงภายใต้สภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติโดยใช้น้ำจากแหล่งธรรมชาติจากแม่น้ำยาฮากิ (Yahagi) เพื่อให้ปลามีความเครียดน้อยซึ่งจะส่งผลให้ได้ปลาที่มีคุณภาพสูง การเพาะเลี้ยงโดยทั่วไปจะเลี้ยงโดยไม่ใช้ยา และอยู่ภายใต้เกณฑ์ความปลอดภัยที่เข้มงวด ทั้งยังลดความหนาแน่นของปลาไหลในบ่อให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้ติดโรคง่าย การเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติเช่นนี้จะทำให้ได้ปลาไหลที่มีไขมันคุณภาพดี และไม่มีกลิ่นคาว
ภายในเมืองมีร้านอาหารที่ท่านสามารถลิ้มรส “ปลาไหลอิชชิกิ” กระจายตัวอยู่ทั่วเมือง และยังมีร้านขายเมนูปลาไหลโดยเฉพาะที่สามารถจองไว้ล่วงหน้าได้ จึงง่ายต่อการวางแผนการท่องเที่ยวทำให้มีลูกค้าประจําที่กลับมาซ้ำจำนวนมาก มาลองลิ้มรสปลาไหลอิชชิกิดูสักครั้งกันเถอะ
เกาะซากุชิมะ
ซากุชิมะ เป็นเกาะที่ลอยอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรืออิชชิกิ (Isshiki) ประมาณ 10.8 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีธรรมชาติอันงดงามที่จะช่วยเยียวจิตใจ และงานศิลปะที่น่าสนใจ ที่บนเกาะไม่มีสัญญาณไฟจราจร หรือร้านสะดวกซื้อ ทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะของจุดถ่ายรูปยอดนิยม ซึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวนั้นก็คือธรรมชาติ และศิลปะนั่นเอง ที่บนเกาะนั้นมีทิวทัศน์ของญี่ปุ่นสมัยดั้งเดิมแผ่ขยายไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะติดตั้งอยู่ทั่วทั้งเกาะ ทำให้ท่านรู้สึกราวกับว่าเกาะแห่งนี้คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะ จากท่าเรืออิชชิกิ ในเมืองนิชิโอะ ทุกท่านสามารถเดินทางไปยังเกาะซากุชิมะด้วยเรือได้ โดยเรือจะออก 7 เที่ยวต่อวัน และใช้เวลาประมาณ 20 นาทีต่อเที่ยว
สันดอนเชื่อมเกาะทอมโบโล
ที่ท่านสามารถชมปรากฏการณ์เส้นทางจากชายฝั่งเชื่อมต่อกับเกาะซึ่งหาดูได้ยาก เมื่อน้ำลง ท่านสามารถเดินข้ามไปยังเกาะมาเอจิมะ(Maejima) ซึ่งเป็นเกาะที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่บริเวณปลายสุดของที่สันดอนเชื่อมเกาะทอมโบโล และท่านสามารถเพลิดเพลินกับบาร์บีคิวได้หากจองคิวไว้ล่วงหน้า การเกิดสันดอนเชื่อมเกาะทอมโบโลนั้นขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของคลื่นทะเล ดังนั้นท่านอาจมีโอกาสไม่ได้เห็นมัน แต่อย่างไรก็ตามท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ความลึกลับของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้แน่นอน ปัจจุบัน ท่านสามารถเดินข้ามไปยังเกาะมาเอจิมะได้เฉพาะในช่วงฤดูขุดหอยเท่านั้น โดยต้องชำระเงิน 300 เยนต่อคน หวังว่าท่านจะได้สัมผัสทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของอ่าวมิคาวะ และเกาะมาเอจิมะ ที่หน้าตาเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละฤดูกาล ทั้งในช่วงซากุระที่เป็นสีชมพู ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่เป็นสีเขียวสด และฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นสีส้ม พร้อมทั้งได้เพลิดเพลินไปกับสันดอนเชื่อมเกาะทอมโบโล แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตมากมายในบริเวณนี้
คิระออนเซ็น (Kira Onsen)
เราขอแนะนำให้ทุกท่านมาใช้ช่วงเวลาผ่อนคลาย ณ ออนเซ็นกลางแจ้งที่สามารถมองเห็นวิวทะเลแสนสวยงาม นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลชั้นเลิศที่ท่านจะได้สัมผัสความอร่อยที่ส่งตรงมาจากทะเลบริเวณอ่าวมิคาวะ
สวนอิโคอิ (Ikoi no Nouen) ตลาดสวนของชาวเกษตรกร
ท่านสามารถหาซื้อพันธุ์ไม้ ต้นไม้ ดอกไม้ ผลผลิตสดใหม่ของเหล่าเกษตรกรที่ส่งตรงมาจากฟาร์ม และท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้หลากสีสันแสนสวยงาม และมีกลิ่นหอมได้อีกด้วย
ซันกาเนะซังสกายไลน์ (Sanganesan Skyline)
นอกเหนือจากทิวทัศน์อันงดงามของอ่าวมิคาวะที่แผ่ขยายออกไปเบื้องล่างอย่างกว้างขวางแล้ว ในเดือนมิถุนายนจะมีดอกไฮเดรนเยียกว่า 70,000 ต้นที่บานสะพรั่งตามริมถนนให้ทุกท่านได้ชมความงามอีกด้วย
อาหารทะเลสด
ท่านสามารถเพลิดเพลินกับปลาสด ๆ จากอ่าวมิคาวะ และท่าเรือประมงอิชชิกิ ซึ่งเป็นแหล่งจับปลาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นได้ และนอกจากนี้ยังมีตลาดเช้าที่มีปลาสด ๆ จำหน่ายอีกด้วย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากอย่างยิ่ง
ข้าวเกรียบกุ้งมิคาวะ อิชชิกิ เซมเบ้
ข้าวเกรียบกุ้งมิคาวะ อิชชิกิ เซมเบ้ มีผลผลิตส่วนใหญ่ในอิชชิกิ เมืองนิชิโอะ นับเป็นสินค้าขึ้นชื่อประจำเมืองซึ่งมีปริมาณการผลิตมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ท่านสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติอร่อยกลมกล่อมของกุ้งได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
หอยลายอาซาริ (Asari)
เมืองนิชิโอะเป็นหนึ่งในเมืองที่มีปริมาณการจับหอยลายมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น หอยตัวใหญ่เนื้อแน่นนั้นมีรสชาติอร่อย และคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก
สวนชาอินาริยามะ (Inariyama Tea Garden Park)
สวนชาอินาริยามะ ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำยาฮากิ เป็นสวนที่ท่านสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพแบบพาโนรามาของสวนชาอันงดงามได้ และในช่วงฤดูปลูกชาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจกับภาพการทำงานของเด็กเก็บใบชาอีกด้วย
มัทฉะแบบพิเศษ (การเก็บชา “ฉะทสึมิ”)
มัทฉะจากเมอร์นิชิโอะเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่ท่านจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมมัทฉะอันมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
อดีตที่พำนักของตระกูลโคโนเอะ (อุทยานประวัติศาสตร์เมืองนิชิโอะ) (Former Konoe Residence and Tea House)
อดีตที่พำนักของตระกูลโคโนเอะ เป็นบ้านพักที่ย้ายมาจากเกียวโต สร้างขึ้นโดยตระกูลชิมาสึในช่วงปลายยุคเอโดะ เนื่องในโอกาสการแต่งงานของทาดาฟุสะ โคโนเอะ ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ภายในอาคารประกอบด้วยห้องรับแขก และห้องดื่มชาซึ่งท่านสามารถเพลิดเพลินกับมัทฉะที่นี่ได้
คิระ โคสุเกะโนะสุเกะ และวัดเคโซจิ
ว่ากันว่าเขื่อน (เขื่อนสีทอง) ถูกสร้างขึ้นในชั่วข้ามคืนเพื่อป้องกันดินแดนจากความเสียหายจากน้ำท่วม ผู้ปกครองเมืองนามว่า คิระ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลที่ชาญฉลาด ภายในวัดเคโซจิจึงมีรูปปั้นไม้ของเขาที่ประดิษฐานเคียงข้างบรรพบุรุษของเขาโยชิยาสุ และโยชิซาดะ
พิพิธภัณฑ์หนังสือโบราณที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่น อิวาเสะ บุนโกะ (Iwase Bunko Library)
ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์หนังสือที่เก็บรักษา และจัดแสดงหนังสือมากกว่า 80,000 เล่มจากหลากหลายสาขาวิชา และจากหลายยุคสมัย ตั้งแต่หนังสือโบราณซึ่งรวมไปถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ไปจนถึงหนังสือที่ใช้ได้จริงในยุคปัจจุบันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครที่จะทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสวัฒนธรรมอันหลากหลาย และประวัติศาสตร์อันยาวนานของหนังสือญี่ปุ่นอีกด้วย
สมบัติแห่งชาติ วัดโคคุโฮคน เร็นจิ มิดาโดะ
ว่ากันว่าวัด โคคุโฮคน เร็นจิ มิดาโดะ เป็นหนึ่งในเจ็ดวัดของมิคาวะที่มินาโมโตะ โยริโตโมะสั่งให้อาดาจิ โมรินากะ ผู้ดูแลจังหวัดมิคาวะสร้างขึ้น นับเป็นอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัด และได้รับเลือกให้เป็นสมบัติของชาติในปีโชวะ 30 (1955)
เทศกาลในนิชิโอะ เทศกาลดั้งเดิมที่เราภาคภูมิใจ
วันเสาร์ และอาทิตย์ที่ 4 ของเดือนสิงหาคม (กำหนดการ)
ศาลเจ้ามิคาวะ อิชชิกิ ซูวะ
เทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่มีมายาวนานกว่า 450 ปีแล้ว โดยจะมีการนำโคมไฟขนาดใหญ่ที่มีความยาว 10 ม. และเส้นผ่านศูนย์กลาง 5.6 ม. ที่ถูกการประดับประดาด้วยลวดลาย และเขียนคำพูดในตำนานและประวัติศาสตร์ นำไปลอยขึ้นบนท้องฟ้า จนเกิดเป็นทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ในยามค่ำคืน
วันอาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
ศาลเจ้าโทบะชินเมฉะ
เทศกาลนี้ได้รับการกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่จับต้องไม่ได้ที่สำคัญของชาติญี่ปุ่นซึ่งมีมาประมาณ 1,200 ปีแล้ว เป็นเทศกาลสุดแปลกที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ ไฮไลท์ของงานคือการที่ผู้ชายในท้องถิ่นแข่งขันกันเข้าไปในเปลวเพลิงเพื่อแย่งไม้ศักดิ์สิทธิ์ และเชือกสิบสองเส้นที่อยู่ใน “ซูซูมิ” ที่มีไฟลุกโชน
กลางเดือนกรกฎาคม
เขตเมืองทางฝั่งตะวันตกของเมืองนิชิโอะ
เจ้าเมืองนิชิโอะสนับสนุนเทศกาลนี้ และอนุญาตให้ชาวเมืองเข้าไปในปราสาทในช่วงเทศกาลได้
เป็นช่วงที่ชาวเมืองทำการแสดงต่าง ๆ อย่างกระตือรือร้น ซึ่งสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้
ปลายเดือนสิงหาคม
หาดคิระ ไวคิคิ
เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงปลายเดือนสิงหาคม บนเวทีสุดพิเศษที่หาดมิยาซากิ ในเทศกาลจะมีการแสดงระบำโพลินีเซีย และการแสดงฮูลา ชายหาดแห่งนี้จึงกลายเป็นฮาวายปีละครั้ง